วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) ตอน 2

ต่อจากตอนที่แล้ว มาเรียนรู้เทคนิคการฝึกการฟังอย่างลึกซึ้ง ใน 2 ข้อสุดท้าย

3.การแยกแยะ
เมื่อมีความคิดใดๆเกิดขึ้นให้มองลงไปแล้วทำการแยกแยะ ที่ผ่านมาเมื่อฟังอะไรก็ตาม ในทันทีจะเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบโดยอัตโนมัติ ซึ่งโดยมากก็มาจากความทรงจำเดิมๆของเรา ซึ่งมันบรรจุแบบแผนการตอบสนองเดิมๆไว้

เช่น พอได้ฟังเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ ก็จะรู้สึกน้อยใจ ไม่พอใจ หรือเสียใจในทันที เราจึงไม่ได้โอกาสที่จะมีการตอบสนองต่อการฟังในรูปแบบใหม่ๆเลย ดังนั้นในการฝึกการฟังให้สังเกตว่า “เรามีการตัดสินผู้คนและสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ”

ฟังเสียงในหัวที่เราพูดวิพากษ์วิจารณ์สิ่งต่างๆเหล่านั้น แล้วถามตัวเอง ด้วยการแยกแยะว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆคืออะไร สิ่งที่เราตีความไปด้วยตนเองคืออะไร ในที่สุดเรามีปฏิกิริยาตอบสนองไปอย่างไร “จงระลึกไว้ว่าสิ่งที่เป็นความจริงกับสิ่งที่เราตีความ มันแยกออกจากกันได้เสมอ

4.วางเฉยและช้าลง
ฝึกที่จะวางเฉย และช้าลงในการตอบโต้บทสนทนาอย่างทันทีให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ และนานขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการโต้ตอบอัตโนมัติของร่างกาย

ที่ผ่านมา ในหลายๆครั้ง เรามักจะกลับมาเสียใจในสิ่งที่เราพูดหรือกระทำลงไปโดยไม่ทันยั้งคิด ดังนั้นให้ใช้การสนทนาและการตั้งคำถามกับตัวเอง เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น มากกว่าจะไปสนใจว่าเราต้องตอบโต้อย่างไรเพื่อรักษาจุดยืนของเรา หรือแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่เราเชื่อว่าถูก

อย่างไรก็ตาม  การฝึกทักษะการฟังในวงไดอะล็อคที่เรากำลังทำอยู่นี้ ถือเป็นเพียงสนามซ้อมเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้อง ดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ หากแต่เมื่อได้มีโอกาสฝึกฝนมากเท่าใด เราก็จะสามารถพัฒนาทักษะการฟังของเราได้มากขึ้นเท่านั้น

ประสบการณ์ที่ได้ในวงสนทนา นั่นก็คือการเรียนรู้นอกตำรา ที่ไม่สามารถจะนั่งอ่านจากหนังสือแล้วทำความเข้าใจได้ หากแต่เป็นปัญญาปฏิบัติที่จะได้จากการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์จริงเท่านั้นและไม่ช้าไม่นานเราก็จะเห็นผลลัพธ์และความเปลี่ยนแปลงในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนั้นเราก็จะสามารถรับฟังผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากอคติใดๆ

ในตอนต่อๆไป จะได้แนะนำเทคนิคที่มีประโยชน์ในการฝึกไดอะล็อคที่นอกเหนือจากการฟัง ซึ่งจะได้รวมแบบฝึกหัดและตัวอย่างจากประสบการณ์จริงมาแลกเปลี่ยนกันต่อไป...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น