วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ไดอะล็อคพื้นฐาน (1): การเริ่มต้น

หลังจากที่ผมเขียนบทความเกี่ยวกับไดอะล็อค ลงในคอลัมน์ของ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ มีหลายท่านได้อีเมลมาถามว่าผมจะจัดไดอะล็อคให้กับผู้สนใจเมื่อไหร่ เพราะพวกเขาต้องการที่จะเข้ามาร่วมเรียนรู้ ฝึกฝน เพื่อให้สามารถสัมผัสประสบการณ์ตรง และมีทักษะเพียงพอที่จะสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ

ผมจึงได้นัดเปิดวงสุนทรียสนทนาขึ้น ที่ร้านกาแฟบรรยากาศดี มีเพื่อนใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มาพบกันพร้อมหน้าถึง 18 คน มีตั้งแต่นักเรียนวัยรุ่นอายุ 17 ปี ไปจนถึงผู้บริหารบริษัท ผู้อาวุโสเฉียด 60 ขวบ

ในความแตกต่างทั้งเพศและวัย ต่างสาขาอาชีพ ถือว่าเป็นวงสนทนาที่มีความหลากหลาย และมีความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ว่าเราจะสามารถดำเนินการสนทนาไปได้อย่างไร

เนื่องจากมีสมาชิกหลายคน ผมรบกวนให้ทางร้านจัดโซนพิเศษที่มุมด้านใน เคลียร์โต๊ะและเก้าอี้ออกไป แล้วปูเสื่อให้เราทุกคนได้นั่งล้อมวงกันบนพื้น

เพื่อให้เราได้เห็นหน้าเห็นตากัน และรู้สึกถึงความเท่าเทียม ไม่มีใครเป็นผู้นำหรือผู้ตาม สร้างบรรยากาศสบายๆ ด้วยเสียงดนตรีเบาๆ ทุกคนสามารถสั่งกาแฟหรือชาที่ตัวเองชอบ มานั่งจิบและพูดคุยกันไปได้ ใครจะกินเค้กกินขนมขบเคี้ยวไปด้วยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งเกร็งหรือทำให้เป็นพิธีการจนอึดอัดใจ

ก่อนเริ่มวงสนทนา ผมขอให้ทุกคนได้หลับตา ทำความรู้สึกผ่อนคลาย นำจิตกลับมาระลึกรู้อยู่กับลมหายใจเข้าลึกช้า และผ่อนลมหลายใจออกเบาๆผ่อนคลาย ให้เรารู้สึกว่า หายใจเข้าลึกจนท้องพอง หายใจออกยาวจนท้องยุบ เมื่ออยู่กับลมหายใจได้สักพัก ก็ให้สัมผัสกับความเป็นปัจจุบันขณะ มีสติรู้ถึงความชัดเจนของอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก หรือผัสสะที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น

นี่คือกระบวนการนำจิตของเราให้สงบ ระงับจากเรื่องราววุ่นวายนอกตัว และเป็นการเตรียมพร้อมที่จะกลับมารับรู้เรื่องราวในตัว ซึ่งจะได้เริ่มเดินทางร่วมกันต่อไป

กิ๊งงง..... หลังจากสิ้นเสียงกังวานใส ของระฆังแห่งสติใบน้อย ทุกๆคนก็ค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ

ผมเริ่มกล่าวเกริ่นแนะนำตัว และขอให้เพื่อนใหม่ผู้ร่วมวงทุกคน กล่าวแนะนำตัวที่พิเศษกว่าปกติ โดยผมตั้งคำถามว่า “คุณคือใครในโลกใบนี้ อะไรคือสิ่งที่คุณกำลังแสวงหา หรือกำลังเดินทางเพื่อมุ่งไปถึงจุดนั้นอยู่”

“ผมชื่อเรือรบ เป็นนักเขียน เป็นนักเดินทางแสวงหาทางจิตวิญญาณ และมีความสุขกับการเดินทางในทุกๆวัน ด้วยใช้ชีวิตอย่างสงบเย็นและเป็นประโยชน์” ผมกล่าวเรียบๆสั้นๆ และยิ้มเชื้อเชิญให้เพื่อนใหม่ลองสืบค้นตัวเองด้วยคำถามแปลกๆนี้

“ชื่อโบ นะคะ เป็นจิตแพทย์เด็ก เป็นคนที่แสวงหาความสุข ตอนนี้เห็นว่า ความสุขที่แสวงหา จริงๆก็คือความทุกข์ที่เรายอมรับได้...”

“ผมชื่อศร ยอมรับเลยว่า ปัจจุบันยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแน่...”

“ชื่อโบนัสค่ะ เป็นนักศึกษาแพทย์ปี 4 อยากรู้ว่า เราจะหาความสุขที่ไม่ต้องพึ่งปัจจัยภายนอกได้อย่างไร...”

“ผมชื่อวิทย์ เป็นนักขัดแย้ง แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสนุกสนาน...”

“หนูชื่อฟินค่ะ อายุ 17 ปี มากับพ่อ ชอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน จะช่วยเปิดมุมมองให้ตัวเอง เข้าใจชีวิตได้มากขึ้น”

นี่คือบางส่วนจากเสียงของเพื่อนใหม่ในวง เมื่อ 5 นาทีก่อน เราคือคนแปลกหน้า แต่นาทีนี้ เราเป็นคนรู้จักกันแล้ว ผมยิ้มและกล่าวต้อนรับทุกคนอย่างเต็มใจ 

ผมรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่พวกเราได้มาพบกันที่นี่ ทุกคนมีเรื่องราวในชีวิต และมีสิ่งที่กำลังแสวงหา หรือหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่ แต่ผมมั่นใจว่า พวกเขาจะพบคำตอบนั้น ณ ที่แห่งนี้ แน่นอน…


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น